เพียงพ่อแม่เปิดใจ ก็สร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจให้ลูก LGBTQIAN+ ได้


LGBTQIAN+ หรือกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในหลายครอบครัวรู้จักและมีความเข้าใจในคำนี้อย่างแพร่หลาย เด็กๆในกลุ่มLGBTQIAN+จึงเริ่มที่จะเปิดเผยตัวตนกับสังคม มีความมั่นใจ และกล้าที่จะใช้ชีวิตตามแบบเพศที่ตัวเองเลือกมากกว่าในอดีต แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางครอบครัวที่ยังไม่สามารถเปิดใจยอมรับได้ทั้งหมดเมื่อลูกมีความหลากหลายทางเพศ บางครอบครัวมองว่าเป็นการฝืนธรรมชาติ บางครอบครัวก็มีความกังวลว่าลูกจะแตกต่างเป็นโรค ไม่ปกติ หรือกังวลไปถึงว่าจะไม่มีผู้สืบทายาท ดังนั้นเมื่อพ่อแม่ไม่เปิดใจ พื้นที่แรกที่ควรจะปลอดภัย และเป็นพื้นที่แห่งความเข้าใจสำหรับลูกนั้นจึงหายไปด้วย ทำให้เด็กไม่กล้าที่จะบอกพ่อแม่ ไม่ไว้วางใจที่จะเล่าหรือปรึกษาปัญหาต่างๆและเลือกที่จะตีตัวออกห่างจากผู้ปกครอง หากปล่อยไว้ยิ่งทำให้เกิดเป็นปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวตามมา ดังนั้นการจะสร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจสำหรับลูกได้ ก็ควรเริ่มจากการเปิดใจและยอมรับของพ่อแม่เสียก่อน

การสร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจในครอบครัว

1. ตั้งสติ หาข้อมูล พ่อแม่บางคนอาจจะไม่คุ้นเคยหรือไม่คุ้นชินกับคำว่า LGBTQIAN+ ให้เริ่มจากการทำความเข้าใจก่อนว่า ความหลากหลายทางเพศคืออะไร หากลูกมีความหลากหลายทางเพศพ่อแม่ควรรู้ว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ความผิดปกติ ไม่ได้เป็นโรค ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ต้องโทษตัวเองหรือโทษใคร เพียงแต่ต้องเข้าใจก่อนว่าความหลากหลายทางเพศเป็นความหลากหลายของมนุษย์ตามธรรมชาติ การที่ลูกแสดงออกถึงรสนิยมทางเพศเป็นเพียงการเปิดเผยตนเอง ไม่ได้เป็นการฝืนกฎธรรมชาติ ลูกสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต ที่สำคัญลูกยังเป็นลูกรักคนเดิมเสมอและลูกจะเป็นเด็กที่มีความสุขหากมีพ่อแม่ช่วยให้ลูกเรียนรู้และเป็นที่พึ่งให้กับลูกในระหว่างที่ลูกค้นหาเส้นทางของตัวเอง

2. ลดอคติและยอมรับในตัวตนของลูก บางครั้งการที่พ่อแม่ได้รับข้อมูลหรือใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากอดีตแล้วนำมาตัดสินในเรื่องเพศของลูก ก็อาจจะทำให้เกิดอคติขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นถ้าหากพ่อแม่ลองมองหลายๆมุมที่แตกต่างกัน ปรับมุมมอง ก็จะช่วยลดอคติในใจลงได้ อย่างเช่น ปัจจุบันไม่ว่าจะเพศไหนก็สามารถทำงานและประกอบอาชีพที่ต้องการได้ ทำให้ความเท่าเทียมกันทางเพศเป็นเรื่องที่มีการยอมรับและมีความแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นการมีความหลากหลายทางเพศของลูกไม่ได้ทำให้เป็นความแปลกแยกแต่อาจเป็นขุมพลังของลูก ไม่ว่าลูกจะเป็นเพศอะไร ลูกก็ยังสามารถเติบโตเป็นคนที่ดีและมีอาชีพการงานของตัวเองได้ หากพ่อแม่ยอมรับในตัวตนของลูกก็เหมือนเป็นการสนับสนุนและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูก ก็จะยิ่งทำให้ลูกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และใช้ชีวิตต่อไปในสังคมได้อย่างเหมาะสม

3. รับฟังด้วยท่าทีที่เข้าใจ ให้อิสระในการเลือกเพศในแบบที่ลูกต้องการ การที่ลูกจะกล้าบอกเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องทางเพศของตัวเองให้พ่อแม่ฟังนั้น ลูกต้องรู้สึกไว้วางใจและรับรู้ได้ว่าพื้นที่นี้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับเขา ดังนั้นพ่อแม่ควรมีท่าทีที่เปิดรับ รับฟังด้วยใจในสิ่งที่ลูกพูด ใช้คำถามปลายเปิดให้ลูกได้มีโอกาสอธิบาย ไม่รีบพูดตัดสิน ตำหนิ หรือสั่งสอน หรือใช้ถ้อยคำรุนแรง ดุด่าว่ากล่าว ก็จะทำให้ลูกกล้าเปิดใจที่จะพูดคุยกับพ่อแม่ ซึ่งในการศึกษาทางจิตวิทยาจะพบว่าวัยรุ่นที่ได้รับการพูดคุยเรื่องพฤติกรรมทางเพศที่ถูกต้องเหมาะสมจะส่งผลให้วัยรุ่นแก้ปัญหาความรักได้ดีกว่าครอบครัวที่ปิดกั้น

พ่อแม่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะทำให้ลูกเติบโตไปในทิศทางไหน เพราะครอบครัวคือสถานที่แรกที่ลูกจะเรียนรู้โลกและสังคม ถ้าหากพ่อแม่สามารถสร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจให้เกิดขึ้นในบ้านได้ บ้านก็จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยและวางใจสำหรับลูก ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี เกิดความรักความอบอุ่นในครอบครัว เป็นการส่งเสริมให้ลูกเกิดความรักและเห็นคุณค่าในตัวเอง เติบโตเป็นตัวของตัวเองและทำสิ่งต่างๆอย่างสร้างสรรค์



Credit : จิราพัชร นิลแย้ม นักจิตวิทยาคลินิก

ปรึกษาแนวทางการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางและนัดหมายแพทย์

ช่องทางการติดต่อ · โทรศัพท์: 090-959-9304 · LINE: @JOYOFMINDS