ปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ มีอัตราการแข่งขันที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทรัพยากรบุคคลถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากในการกำหนดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในยุคสมัยใหม่ ที่เน้นเกี่ยวกับการให้บริการ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ยิ่งต้องพึ่งพาคุณภาพของบุคลากรที่ทำงานอย่างมาก การที่บริษัทมีการสนับสนุนให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพของพนักงานให้สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพของตนเอง ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของบริษัท
ทุกวันนี้จากสภาพเศรษฐกิจ การแข่งขันในทางธุรกิจ และวิถีชีวิตที่มีความรีบเร่ง ส่งผลให้พนักงานในบริษัทต่างๆมีปัญหาความเครียดมากขึ้น ซึ่งปัญหาความเครียดในการทำงานนี้ หากมีอยู่ในระดับที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ สามารถทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการพัฒนาและปรับปรุงตนเองของพนักงาน แต่ถ้าพนักงานมีระดับของความเครียดที่มากเกินไป และไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและจิตของพนักงานคนนั้นอย่างมาก ดังที่ปรากฎชัดในปัจจุบันว่าหลายบริษัทต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการดูแลสุขภาพของพนักงานจากโรคหลายๆชนิดซึ่งมีความสัมพันธ์ชัดเจนกับความเครียด เช่น โรคกระเพาะอาหาร ปวดศีรษะเรื้อรัง นอนไม่หลับ เป็นต้น
และที่สำคัญที่สุดคือ ความเครียดในระดับสูงและต่อเนื่องเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการคิดสร้างสรร สมาธิในการทำงาน ซึ่งจะเป็นตัวบั่นทอนศักยภาพในการทำงานของพนักงานและทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทโดยภาพรวมลดลงได้อย่างมาก
จากสถิติในหลายๆประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยพบว่า พนักงานบริษัทส่วนใหญ่ มากกว่า 50% เคยประสบกับปัญหาความเครียดในระดับที่สูงเกินปกติ ซึ่งส่งผลกระทบด้านลบ ต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน กว่า 40% เคยมีปัญหาโรคทางสุขภาพจิตในระดับเล็กๆน้อยๆ เช่น Burn out ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ และ กว่า 25% มีปัญหาทางสุขภาพจิตในระดับที่รุนแรง จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจังเช่น โรคซึมเศร้า
ดังนั้นการที่บริษัทมีการลงทุนเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตของพนักงานจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และหากบริษัทสามารถบริหารจัดการเรื่องสุขภาพจิตในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการของบริษัทได้เช่นเดียวกัน จากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการณ์ว่าทุกๆ 1 USD ที่บริษัทลงทุนกับการพัฒนาสุขภาพจิตของพนักงาน จะช่วยให้บริษัทได้กำไรกลับมาถึง 4 USD เสมอ
ทีมงาน Joy of Minds มีพันธกิจในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยทางจิตเวชแบบครบวงจร นอกจากสามารถให้การรักษา และบำบัดฟื้นฟูผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตเวชให้หายป่วยแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิต และทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพแล้ว ยังมีบริการเชิงป้องกันในการสร้างสุขภาวะที่ดีในองค์กร อันได้แก่ การให้ความรู้ด้านสุขภาพจิตแก่องค์กรต่างๆ เพื่อป้องกันภาวะการเจ็บป่วยทางจิตเวช สร้างระบบในการคัดกรองและส่งต่อผู้ที่มีเริ่มมีปัญหาด้านจิตใจ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ระยะเริ่มแรก การจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะด้านจิตวิทยาให้กับผู้นำองค์กร ตลอดจนการให้คำปรึกษาในการพัฒนาสุขภาพจิตในระดับภาพรวมขององค์กร โดยที่ผ่านมาแนวทางการให้บริการของทีมที่เน้นการดูแลแบบองค์รวม ครบวงจร และเคารพในความเป็นมนุษย์ของผู้ป่วย ได้รับความสนใจจากผู้รับบริการทั้งในระดับบุคคลและองค์กรชั้นนำต่างๆอย่างกว้างขวาง
ทีมงาน Joy of Minds มีพันธกิจในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยทางจิตเวชแบบครบวงจร นอกจากสามารถให้การรักษา และบำบัดฟื้นฟูผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตเวชให้หายป่วยแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิต และทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพแล้ว ยังมีบริการเชิงป้องกันในการสร้างสุขภาวะที่ดีในองค์กร อันได้แก่ การให้ความรู้ด้านสุขภาพจิตแก่องค์กรต่างๆ เพื่อป้องกันภาวะการเจ็บป่วยทางจิตเวช สร้างระบบในการคัดกรองและส่งต่อผู้ที่มีเริ่มมีปัญหาด้านจิตใจ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ระยะเริ่มแรก การจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะด้านจิตวิทยาให้กับผู้นำองค์กร ตลอดจนการให้คำปรึกษาในการพัฒนาสุขภาพจิตในระดับภาพรวมขององค์กร โดยที่ผ่านมาแนวทางการให้บริการของทีมที่เน้นการดูแลแบบองค์รวม ครบวงจร และเคารพในความเป็นมนุษย์ของผู้ป่วย ได้รับความสนใจจากผู้รับบริการทั้งในระดับบุคคลและองค์กรชั้นนำต่างๆอย่างกว้างขวาง
ทีมงาน Joy of Minds มีความโดดเด่นในด้านบุคคลากร การมีแพทย์ และนักจิตวิทยา ที่มีคุณภาพอยู่เป็นจำนวนมาก และบุคคลากรเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในรูปแบบแนวทางการบำบัดที่หลากหลาย มีทักษะและประสบการณ์ในการเป็นวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาสาระความรู้ที่ถูกต้องได้อย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ทางทีมมีความพร้อมในการทำงานร่วมกับบริษัทในการดูแลและให้คำปรึกษาให้กับพนักงานของบริษัทได้ในระยะยาวด้วย